'น้ำตาล' กำลังทำลายผิวของเราอยู่รึเปล่า

blackmores thailand
facebook twitter email line



การดูแลผิวให้ดูมีสุขภาพดีและอ่อนวัยนั้น นอกจากจะต้องหลีกเลี่ยงสารอาหารบางอย่างแล้ว ยังต้องเพิ่มสารอาหารที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยไม่พึงประสงค์อีกด้วย งานวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบที่น้ำตาลมีต่อคอลลาเจนและความเสื่อมของผิว ชี้ให้เห็นว่าน้ำตาลอาจเป็นภัยต่อคอลลาเจน เจนนิเฟอร์ แมคเลนแนน ศึกษาลงลึกในเรื่องนี้

คอลลาเจนที่ไม่เสื่อมโทรมและเส้นใยอิลาสตินมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม อ่อนวัย และปราศจากริ้วรอย ขณะที่เรายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว เซลล์ต่าง ๆ ในชั้นหนังแท้ของผิว (ชั้นใต้ผิวหนัง) จะผลิตคอลลาเจนใหม่และทดแทนคอลลาเจนและอิลาสตินที่เสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยลดผิวเหี่ยวย่นและริ้วรอย

อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้นและระบบร่างกายมีอนุมูลอิสระมากขึ้น คอลลาเจนจะลดลงและมีความผิดปกติ และเซลล์ที่ผลิตคอลลาเจนก็อาจเสื่อมโทรมมากขึ้น จนส่งผลให้สีผิวแย่ลงและผิวเสื่อมลง

อย่างไรก็ดี งานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับผลกระทบที่น้ำตาลมีต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพันได้ชี้ให้เห็นว่า น้ำตาลสามารถยึดติดกับโปรตีนคอลลาเจนและทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่ากระบวนการไกลเคชัน กระบวนการไกลเคชันนี้เป็นสิ่งที่บ่อนทำลายคอลลาเจน โดยการวิจัยในหลอดทดลองชี้ให้เห็นว่า กระบวนการไกลเคชันอาจคงอยู่เป็นเวลา 2 ถึง 3 สัปดาห์หลังจากที่คอลลาเจนได้รับผลกระทบจากน้ำตาล ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ไม่ใช่เพียงกระบวนการไกลเคชันจากน้ำตาลเท่านั้นที่บ่อนทำลายคอลลาเจน แต่อนุมูลอิสระจากน้ำตาลก็บ่อนทำลายคอลลาเจนเช่นกัน อนุมูลอิสระเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการอักเสบภายใน (local inflamation) และการบวม ซึ่งอาจส่งผลให้เซลล์ได้รับความเสียหายมากขึ้นและเมื่อเวลาผ่านไปอาจส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกของผิวได้

fb
pin
'น้ำตาล' กำลังทำลายผิวของเราอยู่รึเปล่า


นอกจากน้ำตาลแล้ว รังสียูวีก็เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของผิว เนื่องจากแสงยูวีสามารถ

- แทรกซึมและทำลายดีเอ็นเอของเซลล์
- เพิ่มการย่อยสลายของคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง และลดอัตราการทดแทนเส้นใย
- ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว
- ก่อให้เกิดกระบวนการทำลายจากอนุมูลอิสระ

โดยรวมแล้ว วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวคือการหลีกเลี่ยงรังสียูวีและอาหารที่มีน้ำตาล เพื่อช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชัน กระบวนการไกลเคชัน และกระบวนการทำลายจากอนุมูลอิสระ รวมทั้งรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ทั้งนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลี่ยงคาร์โบไฮเดรต และเราก็ไม่ควรที่จะเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตด้วย เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตมีความสำคัญอย่างมากต่ออวัยวะต่าง ๆ เช่น ระบบประสาทและไต อย่างไรก็ตาม ทางเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลผิวให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้นคือการเปลี่ยนจากการรับประทานคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี ไปเป็นธัญพืชและคาร์โบไฮเดรตที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ อาหารประเภทอื่น ๆ ที่อาจทำลายผิวคือนมไขมันเต็มส่วนและเนื้อแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อแปรรูป

fb
pin
'น้ำตาล' กำลังทำลายผิวของเราอยู่รึเปล่า

อาหารที่เป็นประโยชน์ต่อความแก่ของผิวอย่างมีสุขภาพดีคืออาหารที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระและไฟโตนิวเทรียนท์ เช่น ผักมีสี อาหารอย่างพืชตระกูลถั่ว ปลา และกรดไขมันไม่อิ่มตัวก็มีประโยชน์และช่วยปกป้องผิวได้เช่นกัน รวมทั้งโพลิฟีนอล โพลิฟีนอลเป็นสารอาหารที่พบในอาหารประเภทผักผลไม้ เช่น แอปเปิล ชา หัวหอม กระเทียม และมะเขือม่วง และเป็นสารอาหารที่เชื่อกันว่ามีสรรพคุณดูแลผิวด้วยการต่อต้านอนุมูลอิสระ

คอลลาเจนประกอบด้วยโปรตีนภายในเซลล์ของร่างกาย 30% (ดังนั้นจึงเป็นโปรตีนที่มีจำนวนมากที่สุดในร่างกาย)

blackmores thailand blackmores thailandblackmores thailand blackmores thailand
facebook twitter email line