หยุดชิน! กับอาการปวดหลัง ถึงเวลาดูแลตัวเอง

blackmores thailand
facebook twitter email line

หนุ่มสาวหลายคนมีอาการปวดหลัง บางคนคิดว่าอาจเกิดจากสาเหตุนั่งผิดท่ามากเกินไป แต่หารู้ไม่ว่าอาการปวดหลังไม่ได้หมายถึงแค่อาการผิดปกติของกระดูกเท่านั้นนะคะ มีคนจำนวนมากที่มีอาการปวดหลังแล้วคิดว่าเป็นอาการที่เกิดกับกระดูก ถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะเกิดความผิดปกติของกระดูก ของกล้ามเนื้อก็เป็นไปได้ แต่ในบางรายก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

การปวดหลังเป็นหนึ่งในอาการเจ็บป่วยที่พบโดยทั่วไป โดยเฉพาะอาการปวดบริเวณหลังส่วนล่างที่แบกรับน้ำหนักส่วนใหญ่ของร่างกาย เมื่อหลังของคุณมีปัญหามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะหาทางบรรเทาและเร่งเข้าสู่กระบวนการรักษาเพื่อคุณจะได้กลับไปทำกิจกรรมต่างๆได้ตามปกติให้เร็วที่สุด

fb
pin
หยุดชิน! กับอาการปวดหลัง ถึงเวลาดูแลตัวเอง

ทางเลือกของการรักษาได้รับการยอมรับและถูกนำมาใช้มากขึ้นในประเทศออสเตรเลีย และมีการรักษามากมายที่จัดให้สำหรับการปวดหลัง ต่อไปนี้คือทางเลือกของวิธีการบำบัดสี่แบบที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นการรักษาอาการปวดหลังที่มีประสิทธิผล

การฝังเข็ม

นักฝังเข็มสอดเข็มหลายเล่มที่มีขนาดเท่าเส้นผมบางลงไปใต้ผิวหนังของคุณโดยปราศการความเจ็บปวด เชื่อกันว่าจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง โดยไปกระตุ้นการหลั่งของสารเอนดอฟินซึ่งเป็นตัวฆ่าความเจ็บปวดทางธรรมชาติของร่างกายคุณเอง

การวิจัยพิสูจน์ว่าการฝังเข็มได้ผลมากกว่าการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันซึ่งก็คือ การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัดสำหรับอาการปวดหลังส่วนล่าง ได้ถูกชี้ให้เห็นว่า อาการเจ็บปวดลดลงถึง 33 เปอร์เซ็น และมีพัฒนาการของความสามารถในการทำงานถึง 12 เปอร์เซ็นต์ การฝังเข็มต้องทำ 10-30 นาทีในแต่ละครั้งเป็นเวลากว่าหกสัปดาห์ ในขณะที่การแพทย์แผนปัจจุบันต้องมีการให้ยาร่วมด้วยและมีการบำบัดกายภาพโดยใช้ระยะเวลาใกล้เคียงกัน

fb
pin
หยุดชิน! กับอาการปวดหลัง ถึงเวลาดูแลตัวเอง

ทฤษฎีปรับปรุงบุคลิกภาพ (The Alexander Technique)

ได้รับการกล่าวขานว่าช่วยลดอาการเจ็บปวดของข้อต่อและกล้ามเนื้อโดยการปรับปรุงการเคลื่อนไหวและท่วงท่าให้มีประสิทธิภาพ

การวิจัยเมื่อปี 2008 แสดงว่าอาการปวดหลังเรื้อรังสามารถบรรเทาได้ด้วยทฤษฎีปรับปรุงบุคลิกภาพ หลังจากรักษาเป็นเวลาหนึ่งปีคนไข้ที่ได้รับการบำบัดได้รายงานว่า ประสบกับอาการปวดหลังเพียงแค่ 3 วัน ขณะที่เปรียบเทียบกับผู้ที่ได้รับการดูแลเป็นปกติจากแพทย์ของพวกเค้าซึ่งใช้เวลาถึง 21 วัน


การนวด

การนวดเป็นการบำบัดที่นิยมเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการกระตุก อาการอักเสบ อาการปวดและอาการเส้นตึง นักบำบัดใช้มือหรืออุปกรณ์พิเศษในการนวด ถูและรีดกล้ามเนื้อย่างมีจังหวะซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นจะช่วยลำเลียงออกซิเจนและสารอาหาร แลพกำจักผลผลิตที่เป็นของเสียที่อาจสร้างขึ้นอยู่ในกล้ามเนื้อ ทำให้ไปจำกัดท่วงท่า การเคลื่อนไหวและเป็นสาเหตุของการเจ็บปวด

การวิจัยในปี 2003 แสดงให้เห็นว่าการนวดมีประสิทธิผลสำหรับอาการปวดหลังเรื้อรัง และอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลหลัง จากรายการการบำบัดดั้งเดิม


การทำให้หน้าท้องแข็งแรงด้วยศาสตร์การออกกำลังกายแบบพิลาเตส์ (Pilates)

กล้ามเนื้อหน้าท้องที่อ่อนแอจะนำไปสู่อาการเจ็บปวดหลังส่วนล่าง เพราะว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องทำหน้าที่เป็นตัวสร้างเสถียรภาพที่สำคัญกับกระดูกสันหลังของคุณ พิลาเตส์ได้พัฒนาจากวิธีบำบัดทางเลือกเป็นวิธีการฝึกที่นิยมในฟิตเนส มันได้ถูกพัฒนาเป็นการยืดเส้นยืดสาย การสร้างความแข็งแกร่ง และการสร้างความสมดุลกับร่างกายเป็นการช่วยป้องกันการบาดเจ็บและลดอาการเจ็บปวดเรื้อรัง

การวิจัยในปี 2006 ได้แสดงว่าผู้เข้าร่วมฝึกพิลาเตส์เป็นระยะเวลาสี่สัปดาห์ได้บรรเทาจากอาการเจ็บปวดหลังส่วนล่างมากกว่าผู้ที่ได้รับโปรแกรมการรักษาแบบอื่นๆ


ธาตุแมกนีเซียมลดการปวดหลัง

แร่ธาตุแมกนีเซียมช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อประสาทเป็นไปโดยปกติ และอาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ และอาการกระตุก ถ้าเลือดมีธาตุแมกนีเซียมต่ำ แร่ธาตุชนิดนี้ก็จะถูกดึงมาใช้จากกล้ามเนื้อ เมื่อมีธาตุแมกนีเซียมไม่เพียงพอ กล้ามเนื้อก็จะยึดหรือหดเกร็ง ฉะนั้นการมีธาตุแมกนีเซียมที่เพียงพอช่วยให้กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสม

ถ้าหากใครมีอาการปวดหลังอย่างไม่มีสาเหตุ แนะนำให้พบแพทย์ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการ เพราะบางทีหากปล่อยให้ปวดเรื้อรังไปนานเข้า อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายให้ทรุดลงก็ได้นะคะ และการรับประทานแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอ พร้อมการออกกำลังการอย่างสม่ำเสมอก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ


ข้อความใดๆในบทความนี้มีไว้สำหรับให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อเป็นข้อแนะนำทางการแพทย์หรือการสอน แม้ว่าความถูกต้างทางการแพทย์เป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง แต่ก็ไม่ควรปฏิบัติตามโดยยึดถือแต่เพียงเนื้อหาของบทความนี้แต่เพียงอย่างเดียว อีกทางหนึ่งควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพตามความเหมาะสม

blackmores thailand blackmores thailand blackmores thailand
facebook twitter email line