“โรคไข้หวัด” รู้ทัน กันเสี่ยง เลี่ยงป่วย!

blackmores thailand
facebook twitter email line

อะไรที่ทำให้เราคัดจมูก ซึ่งเริ่มจากอาการคันในลำคอ และดูเหมือนจะชอบย่องมาในช่วงเวลาที่แสนลำบาก? โรคหวัดไง! ลองมาดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับโรคไข้หวัด ที่เป็นเคล็ดลับช่วยป้องกันไม่ให้คุณป่วย

โรคหวัดคืออะไร?

เมื่อเดือนที่ความหนาวเย็นมาเยือน ก็ถึงเวลาต้องเอากล่องกระดาษทิชชู่ออกมา และดูเหมือนว่าในออฟฟิศก็จะเต็มไปด้วยเสียงประสานของการสั่งน้ำมูกเสียงไอ และเสียงกระแอม การหลีกเลี่ยงโรคไข้หวัดใหญ่อาจเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อเข้าใจวิธีแพร่กระจายของโรคหวัด เราก็มีโอกาสเสริมระบบภูมิคุ้มกันของเราและช่วยป้องกันโรคไข้หวัดได้

อะไรเป็นสาเหตุของโรคหวัด?

โรคไข้หวัด คือ การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ที่เกิดจากไวรัส ซึ่งส่วนใหญ่มักจะแพร่กระจายทางละอองของเหลว เมื่อคุณจาม หรือไอ หรือสั่งน้ำมูกขณะป่วย ของเหลวที่ออกจากร่างกายของคุณจะมีเชื้อไวรัสอยู่ด้วย แล้วหากใครมาสัมผัสพื้นผิวที่มีละอองของเหลวนี้อยู่ แล้วไปสัมผัสดวงตา หรือ ปาก จมูก คนนั้นก็จะเสี่ยงกับการติดเชื้อไวรัสนั้น

นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำไม คุณจึงต้องปิดปาก (ด้วยทิชชู่!) เวลาไอ หรือไม่ก็ป้องปากด้วยการงอแขน การล้างมือบ่อยๆ ก็เป็นวิธีที่ควรทำ คุณจะได้ไม่กระจายเชื้อบนพื้นผิวต่างๆ และแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น หากคุณกำลังพยายามหลีกเลี่ยงหวัด คุณควรล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสอาหารหรือใบหน้าของคุณ

ลดความเครียด และรับประทานอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน

เราเคยได้ยินกันมาแล้วทั้งนั้นว่า ความเครียดสามารถส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและทำให้คุณเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการอดนอนก็ส่งผลอย่างเดียวนี้กันได้? เราแนะนำให้นอนหลับพักผ่อนให้มากและลดความเครียดลงให้น้อยที่สุด

หากคุณรู้สึกเครียด ลองออกกำลังกายเพื่อเสริมสุขภาพภูมิคุ้มกันที่ดีดู และโปรดจำไว้ว่าควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเติมพลังงานให้แก่ร่างกาย หาอาหารที่มีวิตามินซีสูงมารับประทานเป็นประจำ

การล้างมือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง

เราไม่ได้แนะนำให้คุณล้างมากเกินไปจนทำให้มือแห้งแตก แต่มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องล้างมือในช่วงฤดูหนาวและช่วงหน้าไข้หวัดใหญ่

วิธีที่ดีที่สุดในการฆ่าเชื้อโรคบนมือของคุณ คือ การล้างมือเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วินาทีด้วยน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น น้ำร้อนทำให้ผิวของคุณแห้งแตกและทำให้ติดเชื้อง่าย เมื่อทำคู่กับสบู่และการขัดถู น่าจะทำให้กำจัดเชื้อโรคได้ร้อยละ 90 และจะสามารถกำจัดได้สูงถึงร้อยละ 99.99 หากคุณล้างและขัดถูเป็นเวลา 30 วินาที

มันอาจตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณเชื่อ แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้สบู่พิเศษเลย! สบู่ไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัส ฟองสบู่เพียงช่วยล้างเชื้อไวรัสออกจากมือเท่านั้น

การล้างด้วยสบู่และน้ำมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้เจลทำความสะอาดมือ แต่ถ้ามันเป็นสิ่งเดียวที่คุณทำได้ คุณก็ควรใช้เจลที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อยร้อยละ 60

ขณะล้างมือ ควรเอาใจใส่ขัดหว่างนิ้ว ซอกมือ รอยพับทั้งหมด รอบนิ้วหัวแม่มือ และซอกเล็บของคุณด้วย การถูมือเข้าด้วยกันให้เกิดการเสียดสีซึ่งจะช่วยทำให้ไวรัส “หลุด” ออกจากผิวหนังของคุณ

fb
pin
“โรคไข้หวัด” รู้ทัน กันเสี่ยง เลี่ยงป่วย!

รู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่หรือเปล่า?

คุณก็ล้างมืออยู่บ่อยๆ รับประทานอาหารดีๆ และหลีกเลี่ยงความเครียด แต่ยังติดหวัดได้ เป็นเพราะอะไร?
อาการหลักๆ ของหวัดเป็นอย่างไร?

คุณจะเริ่มมีอาการหวัด ภายหลังจากการสัมผัสเชื้อหวัดประมาณหนึ่งวันหรือมากกว่านั้น
บางคนเริ่มคัดจมูกก่อนตามด้วยน้ำมูกไหล และบางคนก็รู้สึกว่ามีอาการคันหรือคัดในลำคอ คุณอาจเริ่มจามหรือรู้สึกว่ามีอาการปวดหัวจากการไอ

นี่คืออาการที่พบบ่อยที่สุด:
• อาการน้ำมูกไหล
• ปวดศีรษะอ่อนๆ
• มีไข้ต่ำ
• เจ็บหรือคัดในคอ
• เมื่อยและปวด
• จาม

คุณควรพบแพทย์ของคุณเสมอ หากคุณรู้สึกมากกว่าแค่ไม่สบายตัว หรืออาการของคุณไม่หายสักที แย่ลง หรือเปลี่ยนไป

ระยะของอาการหวัดมีอะไรบ้าง?
โรคหวัดสามัญ - มักเรียกว่าโรคหวัด - กินเวลาประมาณ 7 ถึง 10 วันโดยเฉลี่ย

วันที่ 1-2
เมื่ออาการแรกเริ่มปรากฏขึ้น คุณน่าจะติดหวัดในช่วงวันที่หนึ่งหรือสองจาก 7-10 วัน นี่เป็นช่วงแพร่กระจายเชื้อได้มากที่สุด ดังนั้นคุณต้องระวังไม่ให้หวัดไปติดผู้อื่น โดย:
• ไม่ดื่มเครื่องดื่มหรือใช้ช้อนส้อมร่วมกับผู้อื่น
• ปิดปากด้วยทิชชู่เมื่อไอ
• ล้างมือให้สะอาด โดยเฉพาะหลังจากการสั่งน้ำมูกหรือไอ
• หลีกเลี่ยงการจูบ

วันที่ 3-5
มักจะเริ่มด้วยอาการคัดจมูกและคันคอ และจากนั้นประมาณวันที่สาม คุณอาจเริ่มไอและมีอาการคัดจมูกมากขึ้น เมื่อคุณสั่งน้ำมูก คุณอาจเห็นว่าน้ำมูกของคุณขุ่นแล้ว แต่จะปนเขียวหรือเหลืองและข้นกว่าปกติ ซึ่งหมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณกำลังทำงานอยู่! เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ต่อสู้กับเชื้อโรคบริเวณนั้นมีสีออกเขียว ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณเห็นตอนคุณสั่งน้ำมูกออกมา

วันที่ 6-7
โดยทั่วไปอาการหวัดจะหายไปเองหลังจากหนึ่งสัปดาห์ และในสองสามวันสุดท้าย อาการหวัดจะเริ่มบรรเทาลง หากคุณรู้สึกว่าตัวเองอาการแย่ลงในช่วงดังกล่าว อาจหมายความว่าคุณติดเชื้อแทรกซ้อน
หากคุณทำงานหนักเกินไปขณะเป็นหวัดและนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายของคุณอาจติดหวัดสายพันธุ์อื่นเพิ่มเติมหรือติดไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื้อแบคทีเรียร่วมในขณะที่ระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำงานหนักเกินกำลัง นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องพักผ่อนให้พอ!

วิธีบรรเทาอาการหวัด
เมื่อเป็นหวัด เราต้องปล่อยให้มันหายไปเอง แต่คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกทรมานไปทั้งสัปดาห์หรือ 10 วันหรอก มีหลายวิธีที่คุณสามารถบรรเทาหวัดและอาการของมันได้

สองขั้นตอนแรก คือ การพักผ่อน และดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้น คุณต้องทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับเชื้อโรค การดื่มน้ำมากๆ และนอนหลับ มีความสำคัญต่อสุขภาพของระบบภูมิคุ้มกันและช่วยฟื้นฟูร่างกายจากหวัด

นี่เป็นเคล็ดลับเพิ่มเติม เพื่อช่วยคุณบรรเทาหวัด:
• แก้อาการเจ็บคอด้วยการกลั้วคอบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ: เกลือ 1 ช้อนชาผสมกับน้ำ 1 ถ้วย
• ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
• จิบของอุ่นๆ เช่น น้ำชา และซุปไก่
• เปิดเครื่องเพิ่มความชื้นตอนนอนหลับ
• เติมกระเทียมลงในอาหารหรือน้ำผลไม้คั้น
• รับประทานผักและผลไม้ให้มากๆ
• พยายามออกกำลังกายแบบเบาๆ

fb
pin
“โรคไข้หวัด” รู้ทัน กันเสี่ยง เลี่ยงป่วย!

นี่เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในขณะร่างกายกำลังป่วยด้วยโรคหวัด
• การสูบบุหรี่ เพราะทำให้ปอดระคายเคือง
• การใช้สเปรย์ลดการคัดจมูกมากเกินไป เพราะอาจทำให้เยื่อบุจมูกของคุณระคายเคือง
• อาหารประเภทนม เพราะมันอาจทำให้เสลดข้นขึ้นและทำให้คุณรู้สึกแย่ลง
• แอลกอฮอล์ เพราะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้
• การดื่มกาแฟมากเกินไป - ถ้าคุณรู้สึกว่าอยากกาแฟมากๆ ร่างกายของคุณอาจกำลังบอกให้คุณไปนอนหลับเพิ่มขึ้นอยู่ก็ได้!
• เครื่องดื่มหวานๆ และขนมหวาน เนื่องจากการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปนั้นเกี่ยวเนื่องกับการที่การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันถูกกดทันทีหลังการบริโภค

และนี่ก็คือคำแนะนำเกี่ยวกับโรคไข้หวัดสำหรับคุณ

blackmores thailand blackmores thailand blackmores thailand
facebook twitter email line