แม่จ๋า! หนูปวดหัว ช่วยลูกยังไงดี?

blackmores thailand
facebook twitter email line

อาการปวดศีรษะมีอยู่หลายประเภท ก่อนที่จะหาทางบรรเทาปวดหรือป้องกันการปวด เราจะต้องทราบความแตกต่างของอาการปวดแต่ละอย่างเสียก่อน

หากบุตรหลานของคุณบ่นว่าปวดศีรษะ คุณควรต้องถามไถ่ถึงอาการปวดและสิ่งที่อาจจะเป็นสาเหตุกับเด็กและหารือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคุณเสมอ

ในการที่จะทราบว่าวิธีใดดีที่สุดในการบรรเทาอาการปวดศีรษะในเด็ก เป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ปกครองจะต้องสังเกตลักษณะของอาการปวดศีรษะโดยละเอียด

คำถามที่ควรถาม;
ปวดบริเวณไหนของศีรษะ?
มีอาการปวดแบบไหน? (อย่างเช่น รุนแรง, ตุ้บตุ้บ, ทิ่มแทง, แบบน่ารำคาญ?)
ตอนที่เริ่มปวดศีรษะนั้น หนูกำลังทำอะไรอยู่?

แม้ว่าอาการปวดศีรษะส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักและไม่กลับมาปวดซ้ำๆ แต่เวลาที่บุตรหลานของคุณมีอาการปวดศีรษะก็ทำให้คุณเป็นห่วงทุกๆ ครั้ง

อาการปวดศีรษะในเด็กอาจเกิดมาจากหลายสาเหตุ แต่โชคดีที่การบรรเทาปวดด้วยวิธีธรรมชาติมีอยู่หลายวิธี เพื่อให้ผู้ปกครองได้มองเห็นภาพรวม เราจึงได้รวบรวมประเภทของอาการปวดศีรษะและเคล็ดลับเพื่อบรรเทาอาการปวดเหล่านั้น

ประเภทของอาการปวดศีรษะ

1. อาการปวดศีรษะจากความตึงเครียด
ปกติจะรู้สึกเหมือนมียางมารัดรอบศีรษะ อาการปวดศีรษะจากความตึงเครียดอาจเป็นผลมาจากอารมณ์ (ความวิตกกังวล ความเหนื่อยล้า อาการตื่นเต้นมากเกินไป ความรู้สึกไม่ปลอดภัย) มันเกิดขึ้นที่ทั้งสองข้างของศีรษะ และกิจกรรมทางกายภาพไม่ได้ทำให้อาการปวดเพิ่มมากขึ้น โดยปกติแล้วอาการปวดจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป

การบีบนวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณคอและบ่า จะช่วยบรรเทาอาการได้ในทันที ขอแนะนำให้บุตรหลานท่านรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม เพราะการได้รับสารอาหารนี้อย่างเพียงพออาจช่วยสร้างความสมบูรณ์ให้แก่กล้ามเนื้อและช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อได้

fb
pin
แม่จ๋า! หนูปวดหัว ช่วยลูกยังไงดี?

2. ไมเกรน

ไมเกรนมักแสดงออกมาในรูปของอาการปวดแบบตุ้บๆ เป็นจังหวะ โดยทั่วไปอาการปวดจะเกิดขึ้นบริเวณขมับทั้งสองข้างทั้งซ้ายและขวา และส่วนหน้าของศีรษะ เมื่อเด็กปวดไมเกรน อาจจะรู้สึกปวดเพียงด้านเดียวของศีรษะ

อาการปวดไมเกรนอาจจะปวดอยู่อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง แต่อาจจะปวดนานเป็นวันๆ ก็ได้ ลักษณะของการปวดศีรษะแบบนี้มีความรุนแรงมากกว่าการปวดที่มาจากความตึงเครียด

สังเกตดูว่าบุตรหลานของท่านมีอาการไวต่อแสงหรือเสียงหรือไม่ อาการคลื่นไส้อาเจียนก็เป็นสัญญาณทั่วไปว่าตัวคุณกำลังจัดการกับไมเกรน หากว่าคุณกำลังเผชิญกับมันอยู่ คุณต้องหยุดทำกิจกรรมทางกายภาพทั้งหมด เนื่องจากการเคลื่อนไหวจะกระตุ้นอาการปวดศีรษะประเภทนี้กำเริบขึ้นได้

3. อาการปวดที่เกิดจากภูมิแพ้

เด็กที่มีความไวต่ออาหารอาจจะมีปฏิกิริยากับสารเคมีตามธรรมชาติในอาหาร อย่างเช่น นม เนยแข็ง ผลไม้จำพวกรสเปรี้ยว ข้าวสาลี ไข่ มะเขือเทศ ช็อคโกแลต และปลา อาการแพ้ทางระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้

โดยปกติแล้ว วิธีการรักษาจะรวมถึงการหยุดรับประทานอาหารที่แพ้ชั่วคราว และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างจริงจัง

4. อาการปวดศีรษะจากไซนัส

อาการปวดศีรษะจากไซนัสจะรู้สึกได้บริเวณรอบกระบอกตาและโหนกแก้ม
ลองสูดดมน้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์และยูคาลิปตัส เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะและอาการคัดจมูก

5. อาการปวดศีรษะจากการเพ่งสายตา

อาการปวดศีรษะจากการเพ่งสายตาจะรู้สึกได้รอบดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ใช้จอภาพ หรือตอนที่ทำงานที่มีความละเอียด

แนะนำให้พักสายตามากๆ และใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด และรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามิน A เบต้าแคโรทีน และสังกะสี

หากยังคงมีอาการปวดศีรษะต่อเนื่อง อาจจะต้องใช้แว่นสายตา

6. อาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อและลักษณะท่าทาง

อาการอาจรวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณฐานกะโหลกตึง หรือปวดบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา
อาการปวดศีรษะเหล่านี้มักมีสาเหตุมาจากปัจจัยทางสรีรศาสตร์ อย่างเช่น เก้าอี้เตี้ยเกินไป หรือโซฟาใหญ่และนุ่มจนเกินไป หากมีอาการบาดเจ็บ ลองพิจารณาการรักษากับนักบำบัดโรคกระดูกหรือแพทย์ไคโรแพรคติกดู อาการปวดที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและความเครียดมักจะเกิดบ่อยสุด

7. อาการปวดศีรษะจากน้ำตาลในเลือดต่ำ

อาการปวดศีรษะประเภทนี้ส่วนใหญ่อยู่แถวขมับ และอาจจะหายไปเองเมื่อได้รับประทานอาหาร
หากบุตรหลานของท่านมีอาการปวดศีรษะเหล่านี้ ลองให้แบ่งการรับประทานอาหารเป็นหกถึงแปดมื้อเล็กๆ ต่อวัน แทนที่จะเป็นสามมื้อใหญ่ และให้รับประทานอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในแต่ละมื้อเพื่อช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด

fb
pin
แม่จ๋า! หนูปวดหัว ช่วยลูกยังไงดี?

8. อาการปวดศีรษะจากการขาดน้ำ

อาการปวดศีรษะอาจเกิดจากการขาดน้ำแบบไม่รุนแรง

หากบุตรหลานของท่านเป็นคนไม่อยู่นิ่งและอากาศร้อน แนะนำให้คอยดูการดื่มน้ำของพวกเขาให้ได้ 1.5 ลิตรต่อวัน

อย่าลืมจัดผลไม้สด ผัก และธัญพืชลงไปในอาหารของเด็ก และกระตุ้นเตือนให้พวกเขาดื่มน้ำมากๆ
วิธีการบรรเทาอาการปวดศีรษะ

เมื่อผู้ปกครองได้เข้าใจถึงธรรมชาติของอาการปวดศีรษะของลูกหลานและรูปแบบของการปวดแล้ว เขาก็เริ่มคิดถึงวิธีการรักษาอาการปวดนั้นได้ ควรพิจารณาวางแผนกิจวัตรประจำวันเพื่อการป้องกันอาการปวดศีรษะไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก

การบรรเทาอาการปวดศีรษะแบบธรรมชาติ

เมื่อพูดถึงการเยียวยาอาการปวดศีรษะแบบธรรมชาติ มีหลายวิธีที่คุณสามารถลองได้อย่างเช่น เมื่อบุตรหลานมีอาการไมเกรน การกำหนดเวลานอนให้เป็นกิจวัตรเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกที่ควรทำ การทำแบบนี้จะช่วยลดการเกิดของอาการปวดศีรษะประเภทนี้ได้

อีกทั้งยังควรสังเกตสิ่งที่บุตรหลานรับประทานก่อนที่จะเกิดอาการปวดศีรษะ บางครั้งเด็กๆ อาจจะรู้สึกปวดศีรษะในช่วงที่รับประทานอาหารอยู่ แต่บางครั้งอาการปวดศีรษะอาจจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง คุณอาจพบว่าบุตรหลานของคุณมีอาการแพ้อาหารบางอย่างซึ่งทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้
ลองงดอาหารหลายๆ อย่างที่เด็กๆ รับประทาน โดยให้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคุณ
เมื่อบุตรหลานของคุณปวดศีรษะบ่อย

หากบุตรหลานของคุณปวดศีรษะบ่อย ลองปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางสังคมและทางกายภาพดู และลองจำกัดความเครียดทางจิตใจ อย่างเช่น หากบุตรหลานของคุณมีกิจกรรมมากมาย ทั้งเต้นรำและเล่นเปียโนหลังเลิกเรียน แน่นอนว่า นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเกิดความเครียดในวันนั้น

แทนที่จะต้องทำกิจกรรมมากกว่าหนึ่งกิจกรรมภายในหนึ่งวันเรียน ให้กระจายกิจกรรมเหล่านั้นไปวันอื่นๆ ในสัปดาห์จะดีกว่า

หากคุณมีความสงสัยว่าจะจัดการกับอาการปวดศีรษะในเด็กน้อยของคุณได้อย่างไร หรือหากเด็กๆ มีอาการปวดศีรษะรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำๆ หรือเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

blackmores thailand blackmores thailand blackmores thailand
facebook twitter email line